Recorded Diary 13 Friday 22 April 2016
ความรู้ที่ได้รับ (Knowledge)
การส่งเสริมพัฒนาการและการปรับพฤติกรรมเด็กปฐมวัยที่มีความต้องการพิเศษ
- เพื่่อให้เด็กสามารถช่วยตนเองได้ในชีวิตประจำวัน
- ใช้ชีวิตในสังคมให้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด
- เน้นการดูแลแบบองค์รวม (Holistic Approach)
จุดประสงค์หลัก ให้ใช้ชีวิตประวันได้ ยกตัวอย่างเช่น
สามารถเข้าห้องน้ำเองและทำความสะอาดภารกิจของตนเองได้
สามารถแต่งตัวใส่เสื้อผ้าตนเองได้
สามารถรับประทานอาหารเองได้
สามารถมีสังคมเล่นกับเพื่อนได้
รู้จักมารยาทบนโต๊ะอาหาร
การฟื้นฟูทางสมรรถภาพทางการศึกษา
- เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม การสื่อสาร และทักษะด้านความคิด
- เกิดผลดีในระยะยาว
- เน้นการเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิตประจำวันเน้นวิชาการ
- แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program; IPE)
- โรงเรียนการศึกษาพิเศษเฉพาะทางโรงเรียนรวม ห้องเรียนคู่ขนาน
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
- การฝึกฝนทักษะในชีวิตประจำวัน (Activity of Daily Living Training)
- การฝึกฝนทักษะในสังคม (Social Skill Training)
- การสอนเรื่องราวทางสังคม (Social Story)
การบำบัดทางเลือก
- การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
- ศิลปะกรรมบำบัด (Art Therapy)
- ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
- การฝังเข็ม (Acupuncture)
- การบำบัดด้วยสัตว์ (Animal Therapy)
การสื่อความหมายทดแทน (Augmentative and Alternative Communication ; AAC)
- การรับรู้ผ่านการมอง (Visual Strategies)
- โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (Picture Exchange Communication System; PECS)
- เครื่องโอภา (Communication Devices)
- โปรแกรมปราศรัย
แผ่นภาพสื่อความหมายทดแทน
Picture Exchange Communication System (PECS)
การส่งเสริมทักษะต่างๆของเด็กพิเศษ
ทักษะทางสังคม
- เด็กพิเศษที่ขาดทักษะทางสังคม ไม่ได้มีสาเหตุมาจากพ่อแม่
- การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่ได้เป็นเครื่องรับประกันว่าเด็กจะมีพัฒนาการต่างๆอย่างมีความสุข
ทักษะทางภาษา
- เข้าใจในสิ่งที่ผู้อื่นพูด
- ตอบสนองเมื่อมีคนพูดด้วย
- ถามหาสิ่งต่างๆแปลกใหม่
- บอกเล่าเหตุการที่เกิดขึ้น
- ใช้คำศัพท์ตัวเองกับเด็กคนอื่น
ทักษะการช่วยเหลือตนเอง
- เรียนรู้การดำเนินชีวิตโดยให้อิสระมากที่สุด
- เด็กอยากช่วยเหลือตนเอง
- เด็กอยากทำตามึวามสามารถ
- เด็กจะเลียนแบบการช่วยเหลือจากเพื่อน หรือจากเด็กที่โตกว่า หรือผู้หญิง
หัดให้เด็กทำเอง
- ไม่ช่วยเหลือเกินความจำเป็น
- ผู้ใหญ่มักทำสิ่งต่างๆให้เด็กมากเกินไป
- เด็กสามารถทำได้เอง แค่ให้เวลาเขา
กิจกรรมการเล่น
- การเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ของเด็ก
- เด็กจะสนใจกันเองโดยอาศัยการเล่นเป็นสื่อ
- ในช่วงแรกๆเด็กไม่มองคนอื่นเป็นเพื่อน แต่จะเป็นอะไรที่น่าสำรวจ สัมผัส ผลัก ดึง
การกระตุ้นการเลียนแบบและการเอาอย่าง
- วางแผนกิจกรรมไว้หลายๆอย่าง
- คำนึงถึงเด็กทุกคน
- ให้เด็กเล่นเป็นกลุ่ม 2 - 4 คน
- ครูปฎิบัติกับ "เด็กพิเศษ" เหมือนกับ "เด็กที่ปกติ"
การควบคุมกล้ามเนื้อเล็ก
การต่อบล็อก
การทำศิลปะ
การกอกน้ำ การตวงน้ำ
ตัวอย่างอุปกรณ์สำหรับเด็กพิเศษ
ลูกปัดไม้ขนาดใหญ่
จิ๊กซอภาพ แต่ น้อยชิ้น
บทบาทของครุ
ครูปฏิบัติอย่างไรขณะเด็กเล่น
- อยู่ใกล้ๆ และเฝ้ามองอย่างสนใจ
- ยิ้มและพยักหน้าให้ ถ้าเด็กหันมาหาครู
- ไม่ชมเชยหรือสนใจเด็กมากเกินไป
- เอาวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่ม เพื่อยืดเวลาการเล่น
- ให้ความคิดเห็นที่เป็นแรงเสริม
การปฏิบัติของครูและผู้ใหญ่
- ไม่สนใจการพูดซ้ำหรือการออกเสียงไม่ชัด
- ห้ามบอกเด็กว่า “พูดช้าๆ” “ตามสบาย” “คิดก่อนพูด”
- อย่าขัดจังหวะขณะเด็กพูด
- อย่าเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของเด็ก
- ไม่เปรียบเทียบการพูดของเด็กกับเด็กคนอื่น
- เด็กที่พูดไม่ชัดอาจเกี่ยวข้องกับการได้ยิน
ตำแหน่งของเด็กพิเศษในห้องเรียนต้องขึ้นอยู่กับอาการของเด็ก
- นั่ง ข้างในดีที่สุด หรือ ขวามือของครู ไกลจากประตูดีที่สุด
ภาพกิจกรรม
การเล่นของเด็ก
การสอนเด็กใส่ผ้ากันเปื้อน
การประเมิน (Assessment)
การประเมินห้องเรียน (Classroom)
- ห้องเรียนอุปกรณ์เครื่องมือเหมาะสมแก่การเรียน บรรยากาศดีเย็นสบาย
การประเมินเพื่อน (Classmate)
- เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลาส แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจเรียน
การประเมินอาจารย์ (Teacher)
- อาจารย์แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส มีการเตรียมตัวในการสอนอย่างดีและสอนอย่างเข้าใจ
การประเมินตนเอง (Self)
- ตั้งใจเรียน เข้าเรียนสาย และมีความตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี เข้าใจและตอบคำถามสงสัยก็ถาม